อุปกรณ์ของพระเจ้า
หัวใจฉันเต้นแรงขณะรอเสียงโทรศัพท์และการสัมภาษณ์ทางวิทยุที่จะเริ่มขึ้น ฉันคิดถึงสิ่งที่ผู้จัดรายการจะถามและคำตอบของตัวเอง ฉันอธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ทำได้ดีเรื่องการเขียนมากกว่า แต่ข้าพระองค์คิดว่าคงเหมือนกับโมเสส ที่ต้องวางใจว่าพระองค์จะประทานคำพูดให้”
ฉันไม่ได้เปรียบตัวเองกับโมเสส ผู้นำประชากรของพระเจ้าออกจากการเป็นทาสในอียิปต์เข้าสู่ชีวิตในแผ่นดินแห่งพันธสัญญา โมเสสเป็นผู้นำที่ไม่แน่ใจและต้องการให้พระเจ้ารับรองว่าคนอิสราเอลจะฟังท่าน พระเจ้าสำแดงหมายสำคัญแก่ท่านหลายประการ เช่น ไม้เท้ากลายเป็นงู (อพย.4:3) แต่โมเสสก็ลังเลที่จะยอมรับบทบาทผู้นำ โดยบอกว่าตนเองพูดไม่คล่อง (อพย.4:10) พระเจ้าจึงทรงเตือนท่านว่าพระองค์เป็นพระเจ้าและจะประทานคำพูดให้ พระองค์จะ “อยู่ที่ปากของท่าน” (ตามฉบับแปลดั้งเดิมโดยนักวิชาการพระคัมภีร์)
เรารู้ว่าตั้งแต่พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาในวันเพ็นเทคอสต์ พระวิญญาณของพระเจ้าก็สถิตอยู่ภายในบรรดาบุตรของพระองค์ และหากเรายังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ พระองค์จะทรงช่วยให้เราทำภารกิจที่ทรงมอบหมายได้สำเร็จลุล่วง พระเจ้าจะ “อยู่ที่ปากของเรา”
พระเจ้าตรัส
ไม่นานมานี้ ลูกเขยของผมอธิบายให้เเม็กกี้หลานสาวผมฟังว่า เราคุย กับพระเจ้าได้และพระเจ้าทรงสื่อสารกับเรา เมื่อเขาบอกแม็กกี้ว่าบางครั้งพระเจ้าพูดกับเราผ่านพระคัมภีร์ เธอตอบอย่างไม่ลังเลว่า “แต่พระเจ้าไม่เคยพูด...กับหนู หนูไม่เคยได้ยินพระเจ้าคุยกับหนู”
การสื่อสารที่แท้จริง
เมื่อฉันเดินไปตามละแวกที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน ฉันได้ยินบทสนทนาหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นโปแลนด์ ญี่ปุ่น ฮินดี โครเอเชีย อิตาลีและอีกมากมาย แม้ฉันจะไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ความหลากหลายทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ในสวรรค์ ขณะที่ฉันก้าวเข้าไปในร้านของชาวรัสเซียหรือตลาดของชาวโปแลนด์ และได้ยินเสียงและสำเนียงที่แตกต่างกัน บางครั้งฉันคิดถึงวันเพ็นเทคอสต์ที่ผู้คนจากหลายชาติสามารถเข้าใจสิ่งที่สาวกพูดได้ คงเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก
ในวันนั้น ผู้นมัสการมารวมตัวกันในกรุงเยรูซาเล็มสำหรับเทศการเลี้ยงเฉลิมฉลองเก็บเกี่ยว พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่กับผู้เชื่อเพื่อว่าเมื่อพวกเขาพูด ผู้ที่ได้ยิน (ที่มาจากทุกประเทศทั่วโลก) จะสามารถเข้าใจได้ในภาษาของตนเอง (กจ.2:5-6) ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่คนแปลกหน้าจากต่างถิ่นเหล่านี้สามารถเข้าใจคำสรรเสริญพระเจ้าได้ในภาษาของตนเอง ทำให้หลายคนอยากรู้จักพระเยซูมากขึ้น
เราอาจไม่สามารถพูดหรือเข้าใจได้หลายภาษา แต่เรารู้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้เราสื่อสารกับผู้อื่นได้หลายวิธี เราคือมือ เท้าและปากของพระเจ้าเพื่อสานต่อพันธกิจของพระองค์ วันนี้ ด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะเข้าหาใครสักคนที่แตกต่างจากเราได้อย่างไร?
สันติสุขที่ไหลล้น
"ไม่แปลกใจเลยที่คุณเป็นผู้นำค่ายรีทรีต” คนหนึ่งในชั้นเรียนออกกำลังกายบอกฉัน “คุณดูเปล่งประกายดีนะ” ฉันรู้สึกประหลาดใจแต่ก็ดีใจในความเห็นนั้น เพราะฉันเข้าใจว่า สิ่งที่เธอเห็นว่าเป็น “ประกาย” ในตัวฉันนั้นคือสันติสุขของพระคริสต์ พระองค์ประทานสันติสุขที่เกินความเข้าใจให้กับเราซึ่งเป็นผู้ติดตามพระคริสต์ (ฟีลิปปี 4:7) และเป็นเหมือนรัศมีที่เปล่งประกายจากภายใน แม้เราอาจไม่รู้ตัว
หลังจากอาหารมื้อสุดท้าย พระเยซูทรงสัญญากับเหล่าสาวกถึงสันติสุขนี้ พระองค์เตรียมพวกเขาให้รับมือการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ทรงบอกว่าแม้ต้องประสบความทุกข์ยากในโลกนี้ แต่พระบิดาจะส่งพระวิญญาณแห่งความจริงมาอยู่กับพวกเขาและอยู่ในพวกเขา (ยอห์น 14:16-17) และจะทรงสอนและนำความจริงให้เกิดขึ้นในจิตใจ จะปลอบประโลม และประทานสันติสุขของพระองค์ให้ แม้อีกไม่นานพวกเขาจะเจอการทดลอง และต่อต้านอย่างรุนแรงจากผู้นำศาสนาและจะได้เห็นพระเยซูถูกประหารชีวิต พระองค์ตรัสว่าอย่ากลัว เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์จะไม่มีวันละทิ้งพวกเขาไป
แม้ในฐานะลูกของพระเจ้าที่ต้องเผชิญความยากลำบาก เราเองก็มีองค์พระวิญญาณผู้ทรงสถิตอยู่ภายในและไหลล้นออกมาภายนอกด้วย สันติสุขของพระเจ้าจะเป็นพยานของพระองค์ให้แก่ทุกคนที่เราพบ ไม่ว่าจะเป็นที่ตลาด ที่โรงเรียน หรือโรงยิม
หนังสือยอดเยี่ยม
ผมได้อ่านบทความที่แจกแจงคุณสมบัติของหนังสือที่ยอดเยี่ยม ซึ่งบอกว่าหนังสือที่ยอดเยี่ยมต้อง “เปลี่ยนแปลงคุณ เมื่ออ่านจบแล้วคุณจะเป็นคนใหม่”